2556-12-19

น้ำพริกกะปิ

น้ำพริกกะปิ......ถือว่าเป็นน้ำพริกถ้วยเก่าจริงหรอเนี่ย



น้ำพริกกะปิ.....เป็นอาหารคาวซึ่งจัดว่าเป็นน้ำพริกถ้วยเก่า
ที่ยิ่งเก่าเก็บหลายวันยิ่งอร่อย อย่าเก็บนานเกินนะเดี๋ยวราขึ้น อิอิ
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินน้ำพริกมาก แต่...ทำไม่เป็นอีกล่ะ
แหะๆ อย่างที่บอกแหละค่ะมาอยู่ต่างแดนแบบนี้
อะไรที่ทำไม่ได้ ก็ต้องทำให้ได้ อาหารไทยก็เช่นกัน
อยู่เมืองไทย ทำไม่ได้หรือทำไม่เป็นก็ไม่เป็นปัญหา
หาซื้อกินได้ง่ายตามห้างร้าน หรือตลาดสด ละแวกใกล้บ้านเรือนเรานั่นแหละ
ว่าไปแล้วอยู่เดนมาร์กก็ได้กินบ่อยอยู่นะ เพื่อนที่ทำงานบางคนเค้าก็ตำน้ำพริกฯ
มาแบ่งปันกันกินอยู่เนืองๆ ....ประมาณว่าอร่อยตามแบบฉบับคนตำแหละนะ
แต่จะให้อร่อยถูกปากเราเองมันเป็นเรื่องยากส์ ปากใครก็ปากมันอ่า
คนตำ...เค้าก็ต้องคิดว่าเค้าทำได้อร่อยเท่าที่เค้าจะทำได้
เค้าถึงเอามาแบ่งปันกันกิน เราคนกินย่อมควรจะกินอย่างสงบ
ไม่ชมก็จงอย่าไปติ....นึกถึงใจเขาใจเราบ้างจะดีกว่าว่ามะ?
มันจะทำให้สียกำลังใจของคนที่เค้าทำมาแบ่งปันกันกินปล่าวๆ

แรงบันดาลใจที่อยากทำน้ำพริกกะปิกินเอง เนื่องมาจากว่า
เราได้กินน้ำพริกกะปิ มาหลายครั้งหลายคราแล้วที่บ้านน้องสะใภ้เรา
ครอบครัวน้องสะใภ้พื้นเพก็เป็นคนอีสานซึ่งเค้าไม่กิน
อาหารที่ออกรสหวานนิดหน่อยกัน(ม้้ง) สังเกตหลายอย่างเลยอ่า
เช่นส้มตำก็จะมีแค่เปรี้ยว เผ้ด เค็ม น้ำพริกก็เช่นกัน....น้ำพริกกะปิ
ที่เค้าตำให้เรากินออกจะหนักเค็มไปอะ เรากินไปเท่าที่เรากินได้
แต่ในใจเรานี่สิ มันบอกว่าไม่...ไม่...ไม่ใช่แบบนี้....หง่าSmiley
อีกใจก็บอกว่าอย่าไปติอาหารเค้านะจะพาลให้กินอาหารไม่อร่อยไปหลายวัน
ประมาณว่ามีสิทธิ์โดนตบปากเอาง่ายๆ ฮ่า ๆ(อันนี้ล้อเล่นนะเค้าไม่ตีปากเราหรอก)


พอกลับมาบ้านแล้ว...หลายวันผ่านไปนึกอยากลองทำน้ำพริกกะปิ
ฝากเพื่อนซื้อมะเขือพวงมา 1 แพค ระหว่างนั่งรถกลับบ้านเราก้คุย
ให้เพื่อนในรถฟังว่าวันนี้กลับบ้านไปจะตำน้ำพริกกะปิกินกับไข่ทอดชะอม
พรุ่งนี้จะกินด้วยกันมั้ย???
หล่อนสวนมาว่าน้ำพริกกะปินี่ต้องพี่....ตำ เค้าตำได้อร่อย เท่านั้นแหละค่ะ
อาการเสียเซลฟ์เกิดขึ้นในทันได้แถมนีกในใจว่าเออ..ง้้นก็อย่ากินมันเลย
ผ่านไปอีกวันเราก็ยังไม่ตำ ผ่านไปอีกวันก็ยังไม่ตำน้ำพริกกินสักที
ผ่านไปอีกวัน...จนกระทั่งมะเขือพวงเริ่มเหี่ยวบ้างในบางส่วน
แหม....พอเห็นมะเขือพวงเหี่ยวเท่านั้นอาการเสียดายเงินค่ามะเขือ
เข้าครอบงำความกลัว(ไม่อร่อย)เสียหมดสิ้นเหมือนราหูอมจันทร์ยังไงงั้นเลย
เกี่ยวกันม้ียเนี่ย เอิ๊กส์ ๆ
ว่าแล้วก็ลงมือตำน้ำพริกกะปิ โดยบอกกะตัวเองว่าจะกลัวไม่อร่อยไปทำไมกัน??
ทำออกมาไม่อร่อยก็เททิ้งไปก็ได้...ไม่มีใครมาติให้ได้ยินหรือทำให้เสียเซลฟ์อีก
เราเชื่ออยู่เรื่องหนึ่งของความเป็นมนุษย์ คนเราไม่ว่าจะทำอะไรถูกหรือผิด
ย่อมเข้าข้างตัวเองเสมอ อาหารก็เช่นกันเราตำกินเองรสชาติที่ได้ก็ถือว่าไม่เลวร้ายอะไร
ฮั่นแน่เราเข้าข้างตัวเองปะเนี่ย??? อุ๊เหม่....ทำไมเป็นเช่นนั้นไปได้
ก็แหม...ฝาละมีเราฮีไม่กินกะปิดังนั้นจึงขาดพ่อช้อยนักชิม...ไปซะเลยงานนนี้นะสิ

จากตำราอาหารไทย..........ย่อมาดังนี้
อันเรื่องราวชองน้ำพริกกะปิ จะตำอย่างไรให้รสชาติกลมกล่อม
ตามแบบฉบับดั้งเดิม ซึ่งในตำราอาหารไทยชาววังเขียนบอกไว้ว่า
กะปิจะต้องใหม่ และก็ห่อใบตองนำไปย่างให้กะปิหอมเสียก่อน
น้ำพริกกะปิที่อร่อยควรจะมี 4 รสชาติ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวานปะแล่มๆ
เน้นว่าแค่หวานนิดเดียวเท่านั้น....สิ่งสำคัญคือต้องมีทุกรสห้ามขาดรสใด...รสหนึ่ง
ดังนั้นแล้วเราจึงพยายามตำน้ำพริกกะปิกินเองโดยยึดเอารสชาติตามตำราว่าไว้เป็นหลัก
หัดทำกินเองเสีย...จะได้อร่อยถูกปากตัวเองไง
ที่สำคัญตำน้ำพริกกะปิกินเองจะช่วยลดอาการเสี่ยง"ปากแตกปางตายได้ด้วย"
ถ้าบังเอิญคุณบังอาจไปติอาหารผู้มีอิทธิพลคนอื่นเค้า อะล้อเล่นแบบขำขำอีกล่ะ

 
เครื่องปรุง
1. พริก แล้วแต่ความชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อย เราใส่15 เม็ดยังไม่เผ็ดสะใจ
อาจจะเป็นเพราะพริกแช่แข็งมันไม่เผ็ดเท่าพริกสดๆอ่า
2. กะเทียมกลีบใหญ่ 4-6 กลีบ
3. กะปิอย่างดี 2 ชต.นำไปห่อใบตองแล้วย่างให้หอม ถ้าเป็นแม่บ้านต่างแดนแบบเราล่ะก็
ต้องดัดแปลงใช้ใบข้าวโพดมาห่อกะปิแล้วนำไปย่าง ใบตองแพงมากค่ะสุ้ไม่ไหว
4. น้ำตาลปี๊บ
5. มะนาว 2-3 ลูก
6. น้ำส้มคั้น 1-2 ลูก
7. กุ้งแห้งอย่างดี 2 ชต.
วิธีทำ
นำกะปิห่อใบตองหรือกระดาษฟอยล์/ใบข้าวโพด จากน้้นนำไปย่างไฟให้พอหอม


ตำพริกกับกะเทียมพอแหลกแล้วก็ใส่กุ้งแห้งไปโขลกรวมพอแหลกนิดหน่อย

ใส่กะปิ น้ำตาลปี๊บ มะนาว และน้ำส้มคั้นลงไป สุดท้ายใส่มะเชือพวง โขลกให้ส่่วนผสมเข้ากันดี
แล้วชิมรสชาติดูอีกที ใครชอบรสชาติใดก็ใส่กันไปค่ะที่สำคัญต้องมี 4รส


โขลกทุกอย่างจนเข้ากันดีแล้วชิมรสชาติได้ตามต้องการอีกที
ปล.  ทำไมต้องใส่น้ำส้มคั้นด้วย? คำตอบก็คือน้ำส้มคั้นใช้แทนน้ำเปล่าไงค่ะ
ถ้าไม่ชอบน้ำพริกใสก็ใส่น้ำส้มคั้นแค่1ลูก แต่เราใช้ 2 ลูกเพราะเสียดายส้มที่ซื้อมา
น้ำพริกกะปิเราเลยออกแนวใสไปหน่อยนึง มิเป็นไรค่ะยังไงก็ยังอร่อยตามปากเราอยู่ดี
อ่าว...เห็นปะว่าเข้าข้าตัวเองอีกละ เอิ๊กส์ ๆ ๆ
ลองใส่ดูจะได้รสชาติอร่อยกว่าใช้น้ำธรรมดาๆผสมเชียวแหละ

 
 น้ำพริกกะปิกับข้าวร้อนๆและก็ไข่ทอดชะอม แค่นี้อร่อยล้ำแล้ว
แจมด้วยเนื้อทอดที่เหลืออุ่นร้อนไปหลายหนไปหน่อย อ่อ สุดท้ายมีลูกชิ้นเหลืออยู่
นิดหน่อยเลยเอาไปทอดได้เครื่องเคียงที่ไม่เหมือนชาวบ้านเค้ามาแทน อิอิ
บ้านอื่นเค้ามีปลาทู เนื้อทอดกันเนอะ บ้านเรามีเท่าที่เห็น



Create Date : 20 พฤษภาคม 2556
Last Update : 23 พฤษภาคม 2556 0:42:59 น.
Counter : 667 Pageviews.

5 comments
Add to Share/Save/BookmarkShare/Save/BookmarkShare/Save/Bookmark
  
ลบ comment
โอ้ยยยยยยยย บรรยายซะอยากจะง่ำๆขึ้นมาอีกแล้วค่ะ


พูดถึงเรื่องทำอาหารแล้วเราพยายามที่จะทำแล้วมีคนมาทักนี่ รมณ์บ่จอยจริงๆนะค่ะ
น่าจะให้กำลังใจเราสักกะหน่อย  
โดย: chon CH  วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:3:00:11 น.
  
ลบ comment
เมนูโปรดเลยนะคะ
โดย: auau_py  วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:09:49 น.
  
ลบ comment
~ น่ากินนะคะ อาหารไทยสุดยอด สุดยอด „~
โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:28:49 น.
  
ลบ comment
อยู่ไกลบ้านเหมือนกัน แต่กินแต่น้ำพริกกะปิขวดค่ะ
เจ้าของบล๊อคตำออกมาน่าทานมากๆค่ะ ใช้น้ำส้มคั้นเป็นส่วนผสมน่าสนใจดีค่ะ ไม่เคยลอง เดี๋ยวต้องลองตำเองบ้างแล้วค่ะ 
โดย: hot cappuccino  วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:41:39 น.
  
ลบ comment
ตำเองไม่เคยอร่อยเลยค่ะ 
โดย: tuk-tuk@korat  วันที่: 22 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:46:40 น.
ชื่อ : ประนม 
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
Emotion                  
                  
                  
                  
                      

ไม่มีความคิดเห็น: