2556-12-19

Crep Cake/เตรปเค้ก





ทำได้แล้ว ดีใจจัง
เครปเค้กนี้ เป็นขนมหวานอย่างหนึ่ง
ที่เราติดใจในรสชาติ(ครีม)เฉพาะตัวของมัน นุ่ม..หอม...อร่อย
ในเมืองไทยก็เห็นจะมีอยู่ร้านหนึ่งที่ครีมเค้ารสชาติ
อร่อย....ไม่หวาน ไม่เลี่ยน เช่นกัน
รู้สึกว่าจะชื่อว่า เค้กพันชั้น
ที่กล่าวถึงร้านเครปเค้ก
มิได้มีเจตนาจะไปเทียบความอร่อย

เรามันฝีมือบ้านๆ (แม่บ้าน)
ทำเสร็จแล้วก็ พิสูจน์เองกันสองตายาย
แถมเข้าข้างตัวเองด้วยว่าอร่อย กร๊าก ๆ ๆ

ตัวครีมสูตรนี้ไม่หวาน ไม่เลี่ยน กินแล้วมีความรู้สึกว่า
อยากกินต่อ...ไม่อยากหยุด
จะมีแต่ว่าขอลองอีกคำนะ อิอิ


ขั้นตอนออกจะยุ่งยากเล็กน้อย เพราะในตำราบอกว่า
ต้องหมักแป้ง และทำครีมเก็บไว้ในตู้เย็น 1 คืน
สำหรับคนอื่นอาจจะว่าง่ายเพราะเข้าใจภาษาบ้านตนเอง
แต่...เรานี่สิ
ต้องมานั่งแปลเป็นไทย ปวดเฮดเล็กๆๆ


 กะทะทอด ของเรามันใหญ่มากเลยทอด
แป้งเครปได้ไม่ถึง 20 แผ่น
หลังจากหมักแป้งไว้ในตู้เย็น1คืน แล้วก็นำออกมาพักไว้ในอุณหภูมิห้อง
เพื่อรอทอดแป้งเครป 
 นี่...หน้าตาแป้งเครปที่ทอด เสร็จแล้วรอการปาดครีมเป็นชั้นๆ
 นี่...หน้าตาครีม วนิลา (Vanilla Pasrty Cream)
หอมกลิ่นวนิลาจากฝักมากเลยทีเดียว
ที่เห็นจุดดำๆเล็กนี่ไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ มันคือเม็ดฝักในของวนิลา



ขนมเอแคร์ กับไส้ที่รสชาตินุ่มและไม่เลี่ยน




เรียนทำเอแคล์มานานแล้ว จำได้ว่าตอนที่ครูบอกให้ฟังว่าจะสอนทำเอแคร์
ดีใจมาก ถึงมากที่สุด เพราะชอบกันมากๆ
แต่....
พอครูสอนทำตอนบีบ...ในใจมันชักเริ่มสับสนว่า
ทำไมครูให้บีบเป็นยาวๆ เปิ่นค่ะ...ถามครูว่า
 ไหนเธอบอกว่าจะสอนทำเอแคร์ทำไมบีบออกมาเป็นตัวยาวๆล่ะ?
  ครูบอกว่านี่แหละเอแคร์
เราก็บอกว่า แต่มี่เมืองไทยมันไม่ได้บีบแบบนี้นะ
เถียงครูอีกนะ ขนาดภาษาไม่แม่นนะนั่นอะ อิอิ
ที่เมืองไทยอะ เอแคลเค้าต้องบีบเป็นตัวกลมๆอ่ะ
ครูก็บอกว่า ที่นี่เอแคล์คือตัวแบบนี้แหละ

แล้วครูก็บอกว่าที่กลมๆอะที่เดนมาร์กไม่ได้เรียกว่าเอแคร์นะ
เค้าเรียกอีกอย่างนึงว่า Vandbakkelser
เราไม่มีภาพให้ดูว่าเอแคร์เดนมาร์กหน้าตาเป็นอย่างไร
 ติดไว้ก่อนนะไว้จะทำออกมาให้ดู



หลังจากเรียนแล้ว...ก็...กลับมาหัดทำเองที่บ้านต่อ
 เกิดอาการไม่อยากบีบเอแคร์(ตัวจริง)
 อยากบีบเอแคร์ลักษณะเหมือนเมืองไทยขายกัน
 ก็คนมันเคยกินลักษณะแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
 ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเมืองไทยเราเรียกเอแคร์ที่เป็นก้อนกลมๆก็ไม่รู้หง่ะ
 ใครตอบได้บ้างเอ่ย????


มาดุวิธีทำกันดีฝ่าเนาะ


ก่อนอื่นให้วอร์มเตาไว้ที่ 210 องศา
อบนาน ๑๒-๑๕ นาที
ส่วนผสมตัวเปลือก
ไข่ไก่         4 ฟอง
น้ำ             250 มิลลิตร (1 ถต.)
เนย หรือ น้ำมันพืช  125 มิลลิตร(1/2 ถต.)
แป้งสาลี       250 มิลิลิตร (1 ถต.)
น้ำตาลทราย  15 มิลิลิต ( 1 ชต.)
เกลือ         2 มิลิลิตร ( 1/2 ชช. )





 หลังจากเตรีมส่วนผสมไว้เรียบร้อยแล้ว
* นำเนย น้ำ และ น้ำตาล ใส่หม้อ  พอส่วนผสมเริ่มเดือดปุดเตรีมเทแป้ง



 * พอส่วนผสมเริ่มเดือดปุด ๆ เทแป้งใส่ลงไป แล้วรีบคนโดยเร็วด้วยไม้พาย



 * คนแป้งอย่างรวดเร็วแล้วปิดเตา

*ยกออกมาเทใส่ภาชนะอีกใบพร้อมคนให้ส่วนผสมเย็นตัวลง
ด้วยไม้พาย



* ใส่ไข่ลงไปผสมกับแป้งทีละฟอง แล้วคนให้ส่วนผสมเย็นลงโดยเราใช้ตะกร้อตี
เพื่อให้แป้งคลายความร้อนโดยเร็ว


ใส่ไข่ใบที่ 2 ตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยตระกร้อ

ใส่ไข่จนหมดใบสุดท้ายตีต่อจะได้ส่วนผสมที่ข้นและเหนียว


เมื่อส่วนผสมเหนียวเนียนเข้ากันดีแล้วกับไข่ ก็นำใส่ถุงบีบ

   

                     นำแป้งใส่่ถุงบีบ แล้วก็บีบในลักษณะวนกลมๆ บีบให้ห่างกันเพราะขนมจะฟูอีก
                      นำเข้าอบไฟ 210 องศา นาน 12-15 นาที อันนี้แล้วแต่เตาอบแต่ละบ้านนะคะ
                            บางบ้านอาจจะปรับอุณหภูมิมาก-น้อย ก็ต้องศึกษาเตาตัวเองด้วยค่ะ






หลังจากอบออกมาแล้วจะได้แป้งหน้าตาแบบนี้ พักให้เย็นเตรียมรอบีบใส่ไส้










วิธีทำไส้ครีมวนิลา 
ส่วนผสม
นม 2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
(ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาโพสต์เรื่องสัดส่วนน้ำตาลด้วยค่ะ)
 คือลืมลง แก้ไขให้แล้วนะค่ะ ขอบคุณอีกรอบค่ะ
ไข่ไก่ 3 ฟอง เรามีไข่ไม่พอเลยต้องใช้ไข่ 3 ฟองแทน(ในสูตรใช้แต่ไข่แดง 6 ฟอง)
แป้งข้าวโพด 1/3 ถ้วย
เกลือ ๑/๔ ช้อนชา
วานิลา ๑ ช้อนชา
เนยเย็นๆตัดเป็นก้อนเล็กๆ 3 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
* นำนม น้ำตาลทราย และเกลือใส่หม้อต้มไว้ให้พอนิ้วมือจุ่มได้
* ในชามอีกใบให้นำไข่ ผสมกับแป้งข้าวโพดคนส่วนผสมให้เข้ากัน
รอไว้ พอนมอุ่นได้ที่แล้วเทลงไปในชามไข่โดยค่อยๆเททีละน้อยๆๆ 
แล้วอีกมือก็คนส่วนผสมให้เข้ากัน 
* หลังจากเทนมลงไปในไข่หมดแล้ว
ให้เทส่วนผสมกลับคืนไปในหม้อนมใบเดิม
 แล้วกวนไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อนๆ จนกระทั่งส่วนผสมข้น
 ค่อยๆคนไปเรื่อยๆอย่าใจร้อน
พอส่วนผสมข้นได้ที่แล้วก็เทเนยที่เราตัดไว้ลงไปคนให้เข้ากันปิดไฟ
 ยกลงจากเตาเทใส่ชามพักให้เย็นแล้วนำเข้าตู้เย็น
*****หมายเหตุ
ถ้าอยากให้รสชาติครีมอร่อยเปลี่ยนจากนมมาเป็นวิปครีม****
 ส่วนขั้นตอนการทำเหมือนเดิมทุกอย่าง
 รสชาติที่ได้จะเข้มข้นกว่าใช้นมธรรมดา
อันนี้ความเห็นส่วนตัวของเราจากที่ได้ลองทำมา





ลองทำกันดูนะค่ะ

Frugt Tarte/ทาร์ตผลไม้


เป็นทาร์ตผลไม้ที่มีความอร่อยแตกต่างจากเค้กอื่นๆตรงที่มีไข่ขาวมาทำให้หวานและหอมถั่วอบ
ได้รสชาติหวานมัน ไม่เลี่ยนด้วยทานกับกาแฟ ยิ่งอร่อยดีค่ะ
ทีแรกแอบติว่า อะจึ๋ย...ถั่วแอบดำไปนิดนุง
พอไปดูของเจ้าของสูตรอื่นๆเค้าทำ ถั่วเค้าอบออกมาก็สีแบบเราเลยโล่งอก เย้ เย้
เหตุจูงใจที่คิดอยากทำกินเนื่องจากว่าติดใจในรสชาติของเค้ก
ได้กินครั้งแรก...ในงานแต่งงานเราเองหูยหลายปีแล้วเนอะ
เชฟที่ทำเค้กให้ก็คือเพื่อนสามีเราเองเช่นกันเค้าเป็นเจ้าของร้านอาหาร
ในวันงานแต่งของเราเค้าทำเค้กมาให้มีด้วยกัน 2 ชนิดคือทีรามิสุ และทาร์ตผลไม้รวม
หลังจากงานแต่งงานผ่านไปเจ้าสาวอย่างเราได้ใช้ชีวิตแม่บ้านอย่างเต็มที่
ต่อมาก็เริ่มหัดทำเค้กทีรามิสุกิน ทำบ่อยมากถึงมากที่่สุด
ส่วนมากจะทำกินในวันครบรอบแต่งงานเป็นการหวลระลึกถึงความหวานชื่น
เพราะชอบกินทีรามิสุมากกันทั้งคุ่ทำให้เราไม่ค่อยอยากทำเค้กอื่นให้สามีกิน


กระทั่งเราได้กินเจ้าเค้กทาร์ตผลไม้รวมอีกครั้งที่บ้านน้องสาวสามีเรา
ติดใจ...มากเพิ่มไปอีกจะรอช้าอยู่ใยขอสูตรและวิธีทำมาจากน้องสาวสามีทันที
ได้สูตรจากเค้ามาแล้วก็ต้องดองสูตรก่อนค่ะ
ดองให้ความอยากกินมันพุ่งปรี๊ด.................ด...อย่างรุนแรงเสียก่อน
ถ้าไม่ดองสูตรไว้คิดว่าคงทำออกมาไม่อร่อยแน่ ฮ่า ๆ ๆหลอกลวงๆ
จริงๆก็คือพอจะทำเค้กอันนี้ก็เกิดมีการเปลี่ยนใจอยากทำเค้กอื่นแทน
เป็นเยี่ยงนี้บ่อยมาก จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดอยากกินเค้กนี้
สามีก็อยากกินอยู่แล้วเพียงแต่เราไม่มีคิวทำเค้กตัวนี้ให้สักทีจนฮี งอลค่ะงอล
โอ๊ยตายพุดเหมือนเราเป็นนักทำขนมเค้กตัวยง.....เลยนะเนี่ย...กร๊าก
หลอกลวงอีกละนะเนี่ย เค้าปล่าวนะ...เค้าปล่าวนา...

ก่อนลงมือทำเปิดเตาอบรอไว้ก่อนด้วยไฟ 200 องศา
สูตรและวิธีทำ
:

 Dej:ตัวแป้ง

250 g.smør เนย
200 g.sukker น้ำตาล
4 æggeblommer ไข่แดง
2 dl.mælk นม
150 g.hvedemel  แป้งสาลีหรือแป้งเค้ก
2.5 tsk.bagepulver ผงฟู

 
 Marengsdej: ตัวเค้กไข่ขาว
4 æggehvider ไข่ขาว
300 g.sukker น้ำตาลป่น
2 tsk.vanillesukker น้ำตาลวนิลา
100 g.hasselnødder เม็ดอัลมอลสับ
 
  creme:Fyld ตัวครีมปาดหน้า
4 dl.piskefløde/ วิปครีม
4 dl.creme fraiche ครีมเฟรช

 frugt ผลไม้ตามใจชอบ
 
 Først selve kagedejen:
Hertil røres smør og sukker skummebde, og efterhånden piskes æggeblommerne i. Melet blandes med bagepulver og røres med en ske skiftevis med mælken i dejen. De smører dejen ud i en velsmurt folieform, ca. 30x40 cm, og formen skal have en lille kant på et par cm. og hjørnerne klemmes sammen.

Så pisker de marengsen:
Æggehviderne piskes stive, og hertil røres lidt efter lidt sukkeret lidt forstigtigt denne marengsdej smører de ud over den ubagte kage, og herover drysses de hakkede nøddekerner, bages på nederste rille ved 200 grader i 30 min. Kagen tages ud og skubbves fra folieformen, når den er lidt afsvalet. Når kagen er helt kold,
kommer de cremen på:
Flødeskummen røres sammen med creme fraichen, og når det er fordelt over hele kagen ¨, anbringer de frugterne heri, alt efter fantasi og hvilke frugter, de kan skaffe.

Tips:

Kagen kan være rigtig god, til en go´kop kaffe. :-)


 
ส่วนผสมของแป้ง
นำเนยและน้ำตาลมาตีด้วยแฮนด์มิกซ์จนขึ้นฟูเนียนดี
ใส่ไข่ลงไปทีละฟอง จากนั้นก็ใส่แป้งเค้กกับผงฟูที่ร่อนไว้ลงไปส่วนหนึ่งก่อน
แล้วก็เทนมลงไปผสมให้เข้ากันด้วยไม้พาย เทแป้ง+นม สลับกันจนจบที่แป้งค่ะ




จากนั้นก็ทำเหมือนการโฟลแป้งอย่างเบามือผสมให้เข้ากันดี
 แล้วนำไปเทลงในถาดสี่เหลี่ยมขนาด 30*40 ซม.
อย่าลืมปูด้วยกระดาษอบเค้กคอยไว้
ตรงมุมก็ใช้ไม้หนีบๆไว้กระดาษอบจะได้ไม่เลื่อนเวลาที่เกลี่ยแป้งออกให้หนาเท่าๆกัน
ใครจะไม่ใช้ไม้หนีบก็ได้นะแล้วแต่ความสามารถแต่ละบุคคล

หรือถ้ามีถาดฟอยล์ก็ยิ่งดีเพราะว่ามันจะอบได้รูปทรงสวยงาม เราไม่มีถาดฟอยล์
เราใช้ถาดอบเค้กที่มีอยู่นี่แหละทำ ผลที่ได้ออกมาเค้กไม่สวย
เนื่องจากตัวถาดไม่ได้รูปสี่เหลี่ยมเป๊ะ ๆ แต่ก็ถือเอารสชาติเป็นหลักดีก่่านะ อร่อยค่ะ

 ต่อมาก็หันมาทำตัวไข่ขาวต่อค่ะ
นำไข่ขาวมาตีให้ขึ้นฟองฟูแล้วค่อยๆโรยน้ำตาลลงไป...ตามด้วยผงน้ำตาลวนิลา
แล้วตีต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งไข่ขาวตั้งยอด
 ระวังอย่าตีนานเกินไข่ขาวจะแข็งมากเวลาอบ  
หลังจากตีไข่ขาวจนต้้งยอดได้แล้วก็นำส่วนผสมไข่ขาวไปเทราดทับบนตัวแป้ง
ที่เราเทไว้ในถาดอบคอยไว้ก่อนแล้ว จากนันก็โรยด้วยอัลมอลด์บด
เอาแค่แบบบดหยาบก็พอ โรยให้ทั่วแล้วก็ส่งเข้าเตาอบโลด
ไฟ200องศา นาน30นาที โดยวางถาดอบไว้ที่ตะแกรงด้านล่างสุด
อบจนครบ30 นาทีก็นำตัวเค้กทาร์ตออกมาพักไว้ให้เย็น
แล้วก็ลอกกะดาษออก ขนมอบออกมาหน้าแตกไม่เปนไร
เดี๋ยวเราจะต้องนำครีมมาโป๊ะหน้าอยู่แล้ว บ่ ยั่น ๆ

หันมาตีครีมสำหรับแต่งหน้าเค้ก
นำวิปปิ้งครีมมาตีให้ขึ้นฟูลักษณะครีมที่ตีได้ดีจะเป็นเหมือนโฟมโกนหนวด
เมื่อตีวิปครีมได้ที่แล้วก็นำครีมเฟรชมาเทผสมให้เข้ากัน
แล้วนำไปแต่งหน้าเค้กด้วยการเกลี่ยให้สวยงามเท่าๆกันทุกด้าน
สุดท้ายแต่งหน้าด้วยผงไม้ตามต้องการ
 จะมีสตอเบอรี่ หรือ ลูกพีช หรืออะไรก็ได้ที่ชอบ
แค่นี้เสร็จ...ลองทำกินดูนะ บอกได้คำเดียวว่า อร่อย



อยู่กัน 2 ตายาย แต่เค้กก้อนนี้หมดภายใน 1 วัน อร๊ากกส์ไม่กัวอ้วนเลยเรา เหอๆ


 


ขนมปังธัญญพืช


สูตรนี้เราได้มาจากแคตาล๊อคส่งเสริมการขาย

ของร้านค้าแห่งหนึ่ง......มาดูกันค่ะ

ส่วนผสมก็มีไม่เยอะ น่าลองทำดีไม่น้อย




ส่วนผสมมีดังนี้


2 dl นมสด
1 dl มาการีน
1 ก้อน ยีสต์สด ถ้ายีสต์แห้งก็ 1 ซองเล็กๆ
1 ชช. เกลือ
50 กรัม น้ำตาลทราย
500 กรัม แป้งสาลีไม่ขัดสี
1 ลูก ไข่ไก่ เบอร์ 2


ของแต่งหน้า:

เมล็ดฟักทอง
เมล็ดงาขาว งาดำ
เมล็ดทานตะวัน



วิธีทำ
เริ่มจากนำมาการีนใส่หม้อแล้วนำไปละลายบนเตา
ตามด้วยนมสดกะเอาด้วยการเอานิ้วจุ่มลงไปรู้สึกว่าอุ่นๆ
อย่าให้ร้อนเกิน 37 องศานาเดี๋ยวยีสต์ตาย จบเห่เลยนาขอบอก

จากนั้นก็บี้ๆยีสต์ให้กระจายแล้วก็เอาใส่ลงไปในหม้อนมที่เราอุ่นไว้ 
ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปคนให้เข้ากันดี 
พักไว้สักครู่จะเห็นยีสต์ทำงานด้วยการเป็นฟองฝุดๆๆ 
จากนั้นเทไข่ลงไปผสมคนให้ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอ 
ขั้นตอนนี้เราขอเรียกว่าส่วนผสมเปียกละกัน ม่ายรุ้จะเรียกอ่ะไรอ่า


ใครจะถ่ายส่วนผสมเปียกไปใส่โถตีแป้งก็ถ่ายใส่เสียตอนนี้เลย
แล้วก็ทำตามขั้นตอนเดียวกันกับนวดด้วยมือนี่แหละจ้า
ใครจะนวดมือก็ ทำขั้นตอนนี้ต่อได้เลย
เทหม้อนม(ส่วนผสมเปียก)ลงในชามอ่าง
แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน เทส่วนแรกลงไปก็นวดส่วนผสมให้เข้ากัน 
แบ่งแป้งเทใส่ลงไปอีกส่วนหนึ่ง แล้วก็นวดผสมให้เข้ากัน 
ครั้งสุดท้ายก็ใส่แป้งจนหมดนวดให้เข้ากันดี
หรือใครจะเทแป้งออกมานวดต่อบนโต๊ะ นวดนานแค่ไหน....? 
สำหรับเราก็กะเอาว่านวดจนแป้งนิ่มชนิดที่ว่า
ลองกางๆดูเห็นความบางของแป้งก็ใช้ได้แล้ว







โผล่มาก็เป็นรูปจบด้วยการใช้เครื่องนวดแป้งเลยนะเรา

ขัันตอนแรกซึ่งเป็นเรื่องการผสมแป้งลืมถ่าย แหะๆๆ





นี่แหละกางออกมาจะเห็นเป็นแผ่นฟิมล์บางๆได้


จัดการรวบแป้งให้เป็นก้อนกลมๆใส่อ่าง

พักแป้งไว้ในที่ร้อนสักประมาณ 1 ชม




แป้งจะขยายตัวขึ้นเป็นสองเท่า(มั้ง) 


ภาพรวมพวกส่วนผสมเอามาให้ดูเล่นๆ







พอพักแป้งครบ 1 ชม.แล้วก็เอาแป้งออกมาเทลงบนโต๊ะ

จัดการนวดๆไล่ลมออกสักหน่อย แล้วก้แบ่งแป้งออก

เป็น 12 ก้อน แต่ละก้อนก็คลึงกลมๆๆพักแป้งไว้ให้ขึ้นอีกรอบ

พักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป แป้งจะโตพองขึ้นอีกรอบ






หลังจากพักแป้งรอบ 2 จบลง

ก็เอาน้ำมาทาบนแป้งให้ทั่วหน้าขนมปัง

แล้วก็จัดการโรยด้วยเม็ดฟักทอง ถั่วงา

เม็ดทานตะวัน โรยตามใจชอบได้เล้ยจัดหนักๆ

แล้วก็ส่งเข้าเตาอบด้วยไฟ 190 องศา 

เปิดใบพัดช่วยด้วยนะคะ วางที่ตะแกรงด้านล่างสุดเลย

อบประมาณ 7-10 นาที เราอบ 10 นาทีออกมาหน้าตาเยี่ยงนี้แหละ










ทำออกมาได้ 12 ก้อน เราแบ่งเก็บเข้าใส่ช่องฟรีชไว้
เก็บไว้กินเป็นอาหารเช้าได้อีก 3 วัน 
ช่วยสามีประหยัดค่าน้ำมันที่ต้องขับรถออกไปซื้อ
ขนมปังแค่ 2-3 ชิ้นต่อวันมากินกัน ได้ไม่น้อยเลย
แถมรสชาตินุ่มอร่อยไม่แตกต่างจาก
ร้านค้าที่สามีชอบไปซื้อมากินประจำทุกวันหยุดด้วย 
ฮ่า ๆ เจอเมียพาประหยัดเงินซะแว้วนายกระจอก


สุดท้ายขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะค่ะ

2556-12-05

Thank my friends naja,


หลังจากที่ทำขนมเปียะไปแจกเค้ากินกันเรื่อยๆ

ต่อมาก็ลองทำโพสดูในเฟส เพื่อนๆเห็นก็สั่ง

หลังไมค์กันมา,,,ถามหากันมากขึ้นเรื่อยๆ

เริ่มรู้สึกสนุก เพลินกับการทำขนมมาก

ทำให้ไม่เบื่อ ไม่เหงา
















ต่อมาก็ทำเค้กฝอยทองจ้า

อันว่าเค้กฝอยทองนี้จะว่่าเราเชย ก็ว่าได้นะ

เพราะอยู่เมืองไทยไม่เคยได้กินอ่ะ

กินเค้กของลิตเติลโฮมก็ออกจะบ่อย

ก็ไม่เคยได้เห็นเค้ามีเค้กฝอยทองขายหง่า

แต่มารู้จักเค้กฝอยทองก็เมื่อตอนเม้าท์กันกะลูกสาว

เค้าเล่าว่าวันนี้ไปกินเค้กฝอยทองมาแม่

อร่อย..........มาากกกกกกกกก

เราก็มันเป็นไงฟระ เค้กฝอยทอง

จากเมืองไทยมานาน กลับไปเมืองไทยก็ ไม่ค่อยบ่อย

ทำให้ตกเทรนด์เค้กฝอยทองไปเสียนีกระไร

สมอสั่งการเลยว่าหัดทำเค้กฝอยทองเลย

แต่แหม....ที่นี่ราคาก็ใช่ย่อย

แพคนึง 25 โครน ไปร้านไทย 2 หนแต่ก็ไม่ซื้อ

คิดในใจว่ากัดฟันเก็บเงิน(ค่าพัสดุ)อีกสักหน่อย

แล้วจึงโทรไปสั่งลูกสาว

ให้หาซื้ออุปกรณ์พวกถุงแพคขนม แล้วก็กรวยทำฝอยทอง

ส่งมาให้แม่ทีเดียวพร้อมกันเลย

..... พอได้รับของก็ร้อนวิชา

หัดทำฝอยทอง ทำหนแรกรู้สึกว่าน้ำตาลมันเกาะมาก

แต่ก็อร่อยอยู่นะ ยังกะเรื่องน้ำและน้ำตาลไม่ค่อยถูกมั้ง

ทำให้ฝอยทองมีคราบน้ำตาลเกาะมากเกินพิกัด



จากนั้นมาก็เข้าไปหาสูตรเค้กฝอยทองมาลองทำดู

ไปได้สูตรของบล๊อคคุณตวง ขอบอกเลยค่ะว่าสูตรเค้า

ทำได้อร่อยมั่กๆๆ ต้องขอบคุณเจ้าของสูตรมา ณที่นี้ด้วย









ขอบอกเลยค่ะว่า เค้กฝอยทองนี่อร่อยมากกกกกกกก ไม่เคยกินเค้กนุ่มอร่อยๆแบบนี้นานมากแล้ว

2556-11-25

ขนมปังไส้ครีมฟักทอง

รสชาติสไตล์ไทยๆเยี่ยงนี้แหละค่ะที่อยากทำกินมานานมากแล้ว

ที่จริงอยากทำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ว่าหาฟักทองมันๆไม่ได้สักที

จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ไปบ้านน้าเห็นเค้าปลูกฟักทอง

สมองคิดไว้เลยว่า เจอแล้วฟักทองแบบนี้แหละอร่อยชัวร์.....

ก็เลยบอกน้าไปว่า...ตัดมาให้นู๋หน่อยจาเอาไปทำขนมกิน

โดนจวกกลับมาว่า" ยัยอ้วน"...หาทำแต่ขนมกินตลอดนี่แหละ

ถึงได้อ้วนไม่หยุดสักที แม่แกก็สั่งให้น้าบังคับแกอย่ากินขนมมาก

จะบังคับได้หรอ มาเห็นฟักทองก็จะเอาไปทำขนมกินอีก บลาๆๆๆ

มะสน....มีแรงบ่นๆไปฟังหูซ้ายทะลุหูขวา

ส่วนน้าบ่นไปตัดฟักทองใส่ถุงให้ไป ที่ให้เพราะกลัวหลาน

หาว่างกมากกว่ามั้ง ฮ่า ๆ ๆ



หลังจากได้ฟักทองมาก็ต้องรอฤกษ์ค่ะ ฤกษ์ขยันยังมิเกิด

อร๊าก...ม่ายจ้ายๆๆ รอคิวเพราะติดคิวทำขนมเปียะให้เพื่อนคนไทย


ขนมเปียะใช้เวลาทำอยู่ 2 วันถึงเสร็จทำเยอะมาก










อ่า...ได้ฤกษ์คิวทำขนมปังฟักทองแล้วสินะ??

ฟักทองนี่เป็นของกินที่นายกระจอกไม่ชอบกินเอาเสียเลย

ฉะน้้นแล้วตอนเราทำขนมปังอบ นายกระจอกดูไม่ตื่นเต้น

ที่จะได้กินขนมปังสักเท่าไร

..... แต่พออบออกมาเสร็จ

นายกระจอกถามขอกินสักชิ้นได้ป่าว?? สีมันสวย และกลิ่นก็หอมดี

เรานึกว่าท่านจะกินแค่ 1 ชิ้น ไหนได้ชิ้นที่ 2 ตามมาติดๆ

พออิ่มก็ถามว่า พรุ่งนี้เธอทำไปถวายพระหมดนี้เลยหรอ??

เราก็บอกว่าไม่ ฉันจะแบ่งให้น้าฉันกินด้วย

นายกระจอกรีบบอกต่อเลยว่าถ้าให้น้า.....เธอก็แบ่ง

ไว้ให้ฉันกินด้วยนะ ฉันชอบกินมันนุ่มดีแถมบอกอีกนะว่า

ไม่เคยกินขนมปังที่นุ่มมากๆแบบนี้เลย แหงละ

ขนมปังบ้านเธออะเปลือกนอกนี่แข็งโป๊ก บางอย่างนี่...ปาหัวหมาแตกได้

นายกระจอกหัวเราะก๊าก เออ...บางอย่างเปลือกนอกแข็งจริงๆ

แต่ด้านในนุ่มอร่อยเหมือนกัน...เพียงแต่เราไม่ค่อยชอบกินขนมปัง

ของชาวยุโรปสักเท่าไร



มาวันนี้เป็นวันที่เรายุ่ง(นิดส์ๆ) เพราะต้องตื่นแต่เช้า

ไปงานวันเกิดครบรอบ 70 ปี แต่ไปกินแค่อาหารเช้า

เป็นพวกขนมปัง แล้วเราก็กลับออกจากงาน 10.30 น

เพื่อไปต่องานทำบุญร้อยวัน ที่บ้านพี่คนไทยคนนึง

โดยเราได้นำเอาขนมปัง-ครีมฟักทองไปถวายพระฉันท์ด้วย

เพราะไม่มีเวลาทำอาหารถวายเพล

เสร็จแล้วก็เอาขนมปังไปฝากน้า แต่ไม่เจอเลยแขวนไว้

ให้ที่หน้าประตูบ้านเค้า มะกี้โทรมาหาบอกว่า

ขนมปังอะไรอ่ะทำไมมันอร่อยจังแย่งกันกินทั้งบ้าน

ไม่ว่าลูก ไม่ว่าสามี และลูกน้อง แย่งกันทำไมให้มาน้อยจัง

อ่าว....ซะงั้นเนาะ ไอ่เรารึไม่กล้าให้ไปเยอะ

กลัวฝรั่งจะไม่กิน...เพราะฝรั่งส่วนมากไม่ชอบกินฟักทอง

พอเราบอกว่ามันคือ ขนมปัง-ครีมฟักทอง

ที่สำคัญฟักทองมาจากสวนน้านั่่นแหละ

คุณน้าบอกมาตามสายเลยว่า เด๊ยวน้าจะตัดฟักทองให้

แล้วแกมาเอาไปทำขนมปังมาให้น้ากินอีกหน่อย

ดูปะไร อีตอนแรกที่มาหาขอฟักทองบอกว่าจาเอาไปทำขนม บ่นเสียหูชา

แถมเรียกบาดหูอีกต่างหากว่า ยัยอ้วน งุงิ

พอได้กินขนมเข้าไปเท่านั้นกริ๊งกร๊างมาหาบอกให้มาเอาฟักทองไปทำอีก

ทิ้งท้ายอีกนะว่าทำอร่อยแบบนี้แกกลับไปอยู่

เมืองไทยได้แล้วไปเปิดร้านขายเค้กขายกาแฟคงรุ่งแน่

แหมๆ ดูพูดเข้าขืนเปิดร้านมีหวังอ้วนเพิ่มได้อย่างไวแน่นอน

อยู่ที่นี่รบกับนายกระจอกไปเรื่อยๆดีกว่าหนุกดี

รบกันมากที่สุดก้เรื่องทำความสะอาดบ้านนี่แหละ

เขาคนรักสะอาด เรามันคนทำรก

ขั้วบวกกับขั้วลบมาเจอกันก็เลยกลายเป็นขั้ว รบ

รบกันด้วยสายตาพิฆาตเกือบทุกวัน ฮ่า ๆ ๆ




















How To


จ๊ากกกกก แบตหมดขั้นตอนการนวดแป้งไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย


ตรีมฟักทอง

ฟักทอง 1 กก
น้ำตาล 100 กรัม
เนยสด 100 กรัม

ฟักทองหั่นเป็นชิ้นๆแล้วนำไปนึ่งให้สุก
แล้วนำมาบดละเอียด เราใส่เครื่องปั่นเลยขี้เกียจใช้ส้อมบี้ แหะ
จากนั้นนำฟักทองใส่กระทะแล้วใส่น้ำตาลลงไป
กวนฟักทองจนเกือบแห้งก็ใส่เนยสดลงไปกวนต่อ
จนฟักทองได้ที่ดีก็ปิดไฟทิ้งไว้ให้เย็น


สูตรนี้ทำขนมได้ 24 ชิ้น

แป้งขนมปัง 600 กรัม
แป้งเค้ก 200 กรัม
นมสด 400 กรัม
น้ำตาลทราย 100-120 กรัม เราใช้แค่ 100 กรัม
ยีสต์ 1 ซอง 11 กรัม
เกลือ 1 1/2 - 2 ชช. เราใช้แค่ 1+1/2 ชช.
นมผง 40 กรัม
เนยสด 160 กรัม

หมายเหตุ นม และ เนย ก่อนนำมาใช้ต้องพักไว้ในอุณหภูมิห้องก่อน

ละลายยีสต์กับนม 5 ชต. ใส่น้ำตาลลงไปประมาณ 1 ชช.
รอจนยีสต์ทำงานประมาณ 10 นาที
สังเกตุจากยีสต์จะเป็นฟองปุดๆๆ ก็เทส่วนผสมนมอุ่นที่เหลือลงไป

ชามอีกใบก็นำส่วนผสมแห้งทั้งหมดมาร่อนรวมกัน
แล้วเทลงในเครื่องผสมนวดโดยทำหลุมตรงกลางไว้

จากนั้นเทส่วนผสมยีสต์ลงไปคนให้เข้ากันเปิดเครือ่งนวดผสม
ด้วยความเร็วต่ำเติมนม เนย แล้วนวดไปเรื่อยๆสักพัก

เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงนวดจนเนียนดีไม่ติดขอบเครื่องก็ใช้ได้
นำโดว์ไปใส่ชามอ่างแล่วปิดด้วยฟิมล์ถนอมอาหาร

พักโดว์ให้ขยายขี้นเป็น 2 เท่า ประมาณ1-2ชม.
..... เราพักไว้ 2 ชม. อากาศเริ่มเย็นแล้ว
จำต้องเอาไปพักไว้ในห้องน้ำเพราะมีเครื่องทำความร้อนช่วย














หลังจากพักส่วนผสมไว้จนได้ที่แล้วก้นำแป้งโดว์ออกมาชกไล่ลม
แล้วก็ตัดออกเป็น 24 ส่วน คลึงให้เป็นก้อนกลมๆโดยเรียงลำดับ
ก่อนหลัง

นำโดว์แต่ละก้อนมานวดแผ่ออกเป็นแบบสีเหลียมผืนผ้า
กะสัก 12*20 ซม. คงได้ ไม่ต้องซีเรียสให้เปะๆหรอกค่ะ
เราทำก็ไม่ได้วัด ทำไปกะไปตามแบบฉบับตัวตนเราเอง อิอิ
แล้วนำครีมฟักทองที่เรากวนไว้มาทาลงไปบนแป่ง
โดยป้ายให้เหลือขอบไว้ด้วย แล้วก็พับส่วนที่เหลือเข้ามาปิดทับ
จัดการเก็บหัวท้าย(ริมขอบ)ให้เรียบร้อย

จากนั้นก็จัดการกรีดแป้ง โดยกรีดจากหัวมาท้าย
แต่ไม่ให้แป้งแยกขาดจากกัน จัดการม้วนแป้งแล้วบิดแป้งโดว์
สุดท้ายก็ม้วนขดเข้าหากันทำจนครบ 24 ชิ้น

พักแป้งโดว์ไว้อีกอย่างน้อย 30 นาที แต่เราพักนานเพราะ
อากาศที่นี่เริ่มเย็นแล้ว

หลังจากพักแป้งโดว์รอบที่2 ครบแล้วก็นำเข้าอบ
ไฟ 170 องศานาน 15 นาที เราวางถาดไว้ที่ด้านล่าง
แต่ไม่ใช่ล่างสุดนะ

เท่านี้ก็ได้ขนมปังนุ่มอร่อยไว้ทานกันแล้วค่ะ

ลองทำกันดูนะคะ















ชยมเปียะไส้สับประรดกวนอร่อมากเลย แค่ทดลองทำเล่นดียอร่อยอีกฮึ